2494 ได้ตั้งสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทยขึ้น มีหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมและจัดการแข่งขั้นกรีฑาระดับเยาวชนและประชาชน และในปีนี้ได้เป็นสมาชิกสมาพันธ์กรีฑาสมัครเล่นนานาชาติ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ. ศ. 2508 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับสมาคมกรีฑาสมัครเล่นแห่งประเทศไทยไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้ใช้ตราสมาคมกรีฑาฯ ได้ จะเห็นได้ว่าการเล่นกรีฑาในประเทศไทยได้เริ่มขึ้นในรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่ปี พ. 2440 เป็นต้นมาและมีการส่งเสริมการเล่นกรีฑา นอกจากกรมพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการจะให้ความรู้ทักษะพื้นฐานและจัดการแข่งขันในระดับนักเรียนแล้ว ยังมีองค์กรอื่นๆ ที่ให้การส่งเสริม และมาตรฐานการเล่นกรีฑาทั้งระดับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนได้ถูกยกระดับขึ้นจนทัดเทียมนานาชาติ สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับนักกีฬาและนำเอากิจกรรมกรีฑามาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน ประเภทของกรีฑา แบ่งออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่ 1. การแข่งขันประเภทลู่ ( Track Events) 2. การแข่งขันประเภทลาน (Field Events) 3. การแข่งขันประเภทรวม (Combined Events Competitions) 4.
ต้องศึกษาและเข้าใจในระเบียบ กฎ กติกาการแข่งขันอย่างถูกต้อง 2. ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับและกติกาการแข่งขันอย่างเคร่งครัด 3. แต่งการสุภาพ เรียบร้อย รัดกุม และปลอดภัย 4. นักกรีฑาที่ดีจะต้องมีกิริยาวาจาสุภาพเรียบร้อย 5. รู้จัดประมาณความสามารถของตน 6. เล่นและแข่งขันด้วยชั้นเชิงของนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ และรู้ภัย 7. ยอมรับและเชื่อฟังคำตัดสินของผู้ตัดสิน 8. ไม่ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และผู้เล่นอื่น 9. ให้เกียรติผู้เข้าแข่งขันอื่น รวมทั้งผู้ตัดสินด้วย มารยาทของการเป็นผู้ชมที่ดี 1. ปรบมือแสดงความยินดีต้อนรับผู้แข่งขันทุกคน ประปรบมือให้เกียรติแก่ผู้เล่นที่ดีทุกฝ่าย 2. ควรศึกษาและเข้าใจในระเบียบ กฎ และกติกาการแข่งขัน 3. ให้เกียรติและยอมรับคำตัดสินของผู้ตัดสิน 4. ไม่ควรเปล่งวาจาสนับสนุนผู้เล่นไปในทางที่ผิด 5. ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ 6. ไม่ควรรบกวนผู้แข่งขันหรือเจ้าหน้าที่ 7. ไม่ควรส่งเสียงโห่ร้อง เยาะเย้ยผู้แข่งขันหรือเจ้าหน้าที่ การเล่นกรีฑาด้วยความปลอดภัย 1. ควรแน่ใจและมั่นใจว่าสุขภาพร่างกายและจิตใจของตนเองอยู่ในสภาพพร้อมที่จะรับการฝึกได้ ถ้าเป็นไปได้ควรได้รับการตรวจร่ายกายจากแพทย์ก่อน 2.
ทัพกรีฑาไทย คว้าเพิ่ม 2 ทอง 5 เงิน 8 ทองแดง ศึกซีเกมส์ "รัตนพล"เงินลมกรด-"ณัฏฐา-มิ่งกมล"คว้าทองพุ่งแหลน-ขว้างค้อน อาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2562 เวลา 20. 15 น. การแข่งขัน กรีฑา ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 ธ. ค. เริ่มที่ วิ่ง 100 ม. ชาย มีลมกรดทีมชาติไทยลงชิงชัย 2 คน คือ รัตนพล โสวัน และ บัณทิต ช่วงไชย ซึ่งผลปรากฏว่า ในช่วงออกสตาร์ท รัตนพล ออกตัวได้ไม่ดีนักแต่ก็เร่งปลีดไล่จี้ ฮานาฟี มูฮัมหมัด ไฮคาล จากมาเลเซียได้ติดๆ ก่อนเป็นนักวิ่งถิ่นเสือเหลืองที่เฉือนเข้าเส้นชัยไปก่อน ด้วยเวลา 10. 35 วินาที ส่วน รัตนพล เข้าที่ 2 ด้วยเวลา 10. 49 วินาที คว้าเหรียญเงินมาครอง ในขณะที่ บัณทิต ช่วงไชย เข้าที่ 3 เวลา 10. 52 วินาที ได้เหรียญทองแดง ส่วน วิ่ง 100 ม. หญิง "ลูกกบ" สุภาวรรณ ธิปัตย์ พยายามเร่งฝีเท้าอย่างเต็มที่ ก่อนเข้าเส้นชัยเป็นที่ 4 ด้วยเวลา 11. 74 วินาที ชวดคว้าเหรียญ โดยเหรียญทองเป็นของ ลี ทู ชินห์ จากเวียดนาม 11. 54 วินาที, เหรียญเงิน คนอท คริสตินา มารี (ฟิลิปปินส์) 11. 55 วินาที และทองแดง พีไรรา เวโรนิกา ซานติ (สิงคโปร์) 11. 66 วินาที "ณัฏฐา - มิ่งกมล"คว้าทองพุ่งแหลน- ขว้างค้อน พุ่งแหลน "เปรี้ยว" ณัฏฐา นาชาญ โชว์พลังพุ่งแหลนได้ไกลถึง 55.